ขนส่งทางบก ย้ำ บทลงโทษไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลาย โดนตัดแต้มใบขับขี่และปรับเงินทันที เตือนหากแต้มใบขับขี่เหลือ 0 พักใบขับขี่ทันที กรมขนส่งทางบกได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กย้ำเตือนถึงบทลงโทษใหม่กรณีไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ภายหลังมีการออกกฎตัดแต้มใบขับขี่ในวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ที่ระบุว่าผู้ขับขี่ทุกคนจะมี 12 แต้ม และหากถูกตัดเหลือ 0 จะถูกพักใบขับขี่ 90 วัน โดยผู้ที่ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลายนั้นมีทั้งโทษปรับเงินและหักคะแนนใบขับขี่ด้วย
กรมขนส่งทางบกระบุว่า
“เมื่อเร็วๆ นี้ ตำรวจได้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มอัตราโทษความผิดตามกฎหมายจราจร และมีระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ ซึ่งผู้มีใบขับขี่ทุกคนมี 12 คะแนนเต็ม และจะถูกตัดคะแนนทันทีที่กระทำผิด เพื่อให้ทุกคนมีความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนกันมากขึ้น
กรณีผู้ขับขี่ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
– มีโทษปรับ ไม่เกิน 4,000 บาท
– ตัดคะแนนความประพฤติทันที 1 คะแนน
ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะเป็นอย่างไร
-พักใช้ใบขับขี่ ห้ามขับรถ 90 วัน
-ฝ่าฝืนขับรถ ช่วงถูกพักใช้ใบขับขี่ โทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
-หากโดนพักใช้ใบขับขี่เกิน 3 ครั้ง ภายใน 3 ปี จะโดนพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกตัดคะแนนจนถูกพักใช้ใบขับขี่ภายใน 1 ปี จะโดนเพิกถอนใบขับขี่ทุกประเภท!
ดังนั้น หากขับรถแล้วพบทางม้าลาย จะต้องชะลอหรือเตรียมหยุดรถ โดยให้ห่างจากทางม้าลายในระยะ 3 เมตร และรอให้คนข้ามถนนเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงค่อยขับรถผ่านไปได้ และในบางที่จะมีไฟเตือนคนข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย ผู้ขับขี่ควรสังเกตทุกครั้งและปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย
โดยวันนี้ อัยการ โจทก์ ผู้ต้องหาที่ 1-14 และที่ 16-19 ทนายความมาศาล โดยทนายความผู้ต้องหาที่ 15 แถลงว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 ที่อัยการได้ยื่นฟ้องคดี อัยการยังไม่ได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่ 15 ซึ่งได้ประกันตัวไป วันนี้ผู้ต้องหาที่ 15 จึงไม่ได้เดินทางมาศาล
ขณะที่ทนายความผู้ต้องหาที่ 12 แถลงขอเลื่อนการนัดสืบพยานล่วงหน้าวันนี้ออกไปก่อน อ้างว่ามีหมายเรียกพยาน เอกสารเพื่อใช้ประกอบการถามค้าน โดยรับแจ้งจากตำรวจ สน.ยานนาวา ว่าพยานเอกสารตามหมายเรียกอยู่ในความครอบครองของพนักงานอัยการผู้ร้อง ซึ่งผู้ต้องหามีความประสงค์จะใช้พยานเอกสารดังกล่าวในการถามค้าน หากไม่ได้เอกสารมาจะทำให้ผู้ต้องหาเสียเปรียบ
โดยอัยการแถลงว่าภายหลังจากเลื่อนคดีนี้ โจทก์ได้ยื่นคำฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 ดังนั้นโจทก์จะยื่นคำร้องขอสืบพยานล่วงหน้าคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173/2 ภายในเวลา 12.00 น. ในวันนี้ เพื่อสืบพยานล่วงหน้าในเวลา 13.00 น.ของวันนี้
ทนายความผู้ต้องหาทั้งหมด แถลงว่า เนื่องจากโจทก์ยื่นคำฟ้องเข้ามาแล้ว มีจำนวนถึง 400 หน้าเศษ และมีจำเลยเพิ่มเติมจากผู้ต้องหาในคดีนี้อีก ซึ่งมีการแต่งตั้งทนายความเข้ามา โดยทนายความที่แต่งตั้งเข้ามาใหม่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงของคดี การสืบพยานล่วงหน้าในช่วงบ่ายวันนี้จะทำให้ฝ่ายผู้ต้องหาทั้งหมดเสียเปรียบ ประกอบกับในคำฟ้องมีการฟ้องนิติบุคคลเพิ่มเข้ามา ซึ่งยังไม่มีการแต่งตั้งทนายความ จึงขอเลื่อนการสืบพยานล่วงหน้าออกไปก่อน
พระอมนกเขา คากุฏิวัดขอนแก่น เผยขี้เมา พาผู้ชายมานอนไม่ซ้ำหน้า
เสื่อมวงการผ้าเหลืองอีกแล้ว หลังมีชายคนหนึ่งเปิดเผยกับสื่อถึงกรณี พระอมนกเขา คากุฏิวัดขอนแก่น เผยมีนิสัยขี้เมา ชอบพาผู้ชายมานอนไม่ซ้ำหน้า ผู้สื่อข่าวได้รับคลิปมาจากชายคนหนึ่ง โดยคลิปดังกล่าวเป็นคลิปพระสงฆ์ทำออรัลเซ็กซ์ให้กับชายอีกคน โดยผู้ให้คลิประบุว่า เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ในอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เป็นวัดที่มี มีพระอยู่รูปเดียว ชอบดื่มสุราของมึนเมาและมีพฤติกรรมชอบพาผู้ชายมานอนด้วย
ผู้ให้คลิปเผยอีกด้วยว่า คณะกรรมการวัดรวมทั้งผู้นำชุมชน ต่างรู้เห็นแต่ไม่ดำเนินการทางสงฆ์ กลับหาผลประโยชน์จากเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ เพื่อจะได้มีเงินเข้าวัด แต่เงินทั้งหมดเข้ากระเป๋าคณะกรรมการวัดแทน จึงอยากให้มีการตรวจสอบดำเนินการจัดระเบียบสงฆ์ที่วัดแห่งนี้ และตรวจสอบพฤติกรรมของคณะกรรมการวัดที่หากินแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว
แหล่งข่าวให้ข้อมูลเกี่ยวกับคลิปดังกล่าวเพิ่มว่า ในคลิปเกิดขึ้นในกุฏิเจ้าอาวาสเอง โดยคลิปนี้ถูกถ่ายโดยผู้ชายชาวจังหวัดอุดรธานี ที่ถูกเจ้าอาวาสอมนกเขา เมื่อทราบเรื่องทางตนได้บอกให้เจ้าอาวาสวัดสึกจากการเป็นพระ แต่ก็ไม่ยอมสึก ซึ่งทางญาติพี่น้องของพระรูปดังกล่าวได้พูดคุยกับตน อยากให้สึก และอยากให้นำคลิปไปออกข่าว เพื่อให้คณะสงฆ์ลงมาจัดระเบียบที่วัด เพราะพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดรูปนี้ไม่สมควรเป็นพระอีกต่อไป
นอกจากคลิปนี้แล้ว พระรูปดังกล่าว เมาสุรา เมายาบำรุงกำลังพญานาคอยู่ตลอด และจะพาผู้ชายมานอนด้วยเป็นประจำ และมีบ่อยครั้งที่มีคนอื่นๆ จากทั่วทุกสารทิศที่ทราบว่า เจ้าอาวาสชอบหาความสุขด้วยวิธีนี้ก็จะมาติดต่อที่วัด บางคนก็ให้เงิน บางคนก็มาแล้วก็ไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ไม่สมควรที่จะเป็นพระสงฆ์อีกต่อไป หากถามว่าเจ้าอาวาสทำไปเพราะอะไร ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะใช่เรื่องเงินแต่เป็นเรื่องที่เจ้าอาวาสชอบหาความสุขแบบนี้มากกว่า ซึ่งไม่ว่าใครก็สามารถเข้าไปหาเจ้าอาวาสและร่วมหลับนอนกับเจ้าอาวาสได้ทุกคน ด้วยเหตุนี้จึง ติดต่อสื่อโดยตรง เพื่อให้เป็นข่าว จะได้มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดรวมทั้งผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน ต่างรับรู้เรื่อง แต่ไม่ดำเนินการอะไรเพราะที่วัดมีเจ้าอาวาสวัดรูปเดียว หากไม่มีพระก็ไม่มีเงินทำบุญเข้าวัด แต่เงินที่ทำบุญนั้น ไม่ได้เข้าบัญชีพระ หรือบัญชีวัดที่คณะกรรมการตั้งขึ้นแต่อย่างใด แต่เงินทุกบาททุกสตางค์เข้ากระเป๋าผู้ใหญ่หมด
Credit : ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ